อากาศร้อน ทำไมถึงปวดหัว!
อากาศร้อน ระวังไมเกรน ความดันโลหิตสูง! – อากาศร้อน ปวดหัว ทำไงดี ???
ช่วงนี้อากาศบ้านเราไม่ได้ร้อน แต่เป็นโคตรร้อนเลย! จึงอาจทำให้หลายๆคน มีอาการปวดหัว…
ยังไงก็ดูแลสุขภาพ กันด้วยนะครับ…
และนี่คือ *** วิธีการ รักษาโรค ยอดฮิต ปวดหัว ในหน้าร้อน *** ครับ!
อากาศร้อน ระวังไมเกรน
อาการปวดศีรษะมีหลายชนิด แต่อาการปวดศีรษะไมเกรน มักก่อให้เกิดความทุกข์ทรมาน กับผู้ที่เป็น…
โดยจะมีอาการปวดตุบๆ เหมือนหัวใจเต้น บริเวณขมับหรือแถวๆ เบ้าตา อาจจะมีอาการปวดไม่มากนัก จนถึงปวดมาก ซึ่งส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน
แต่ถ้าปวดพอรำคาญ ไม่มากนัก อาจจะไม่ใช่ อาการปวดหัวไมเกรนก็ได้ ภญ.อินทิรา วงศ์อัญมณีกุล จากมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ เผยว่า…
อาการปวดศีรษะไมเกรน มีความสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อม อาหาร อารมณ์ ความเครียด และการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งจะมีผลทำให้หลอดเลือดแดงในสมอง เกิดการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ และจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
วิธีสังเกตว่า คุณกำลังจะถูกไมเกรนเล่นงานหรือไม่ ให้สังเกตได้จากอาการหน้าซีด เหงื่อแตก อาเจียน ตาไม่สู้แสง หรือเวลาได้ยินเสียงต่างๆ ก็จะยิ่งทำให้อาการปวดศีรษะเพิ่มมากขึ้น บางรายอาจจะนึกอยากอาหาร หาวนอนมากขึ้น หรือเริ่มสมองตื้อๆ เป็นต้น
โดยเฉพาะในช่วงนี้ อากาศบ้านเราเริ่มร้อนอบอ้าว อาจจะทำให้หลายคน โดนไมเกรนเล่นงานได้บ่อยขึ้น…
เพราะอากาศร้อน ถือเป็นตัวกระตุ้น ของอาการปวดไมเกรน ที่จะทำให้หลอดเลือดแดงในสมอง เกิดการบีบและคลายตัวมากกว่าปกติ และจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ ความกดอากาศ ของสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เช่น การอยู่ในห้องแอร์ ในที่ทำงานที่มีอากาศเย็นๆ และเมื่อออกไปข้างนอก เจอกับอากาศที่ร้อนอบอ้าว ก็จะไปกระตุ้นอาการปวดไมเกรนกำเริบขึ้นได้
ภญ.อินทิราแนะนำว่า ไมเกรนสามารถป้องกัน ลดความถี่ของการปวด และความรุนแรงลงได้ ด้วยการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น ไม่เครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและเป็นเวลา
และการรับประทานยาแก้ปวดไมเกรน ก็ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน เพื่อรับคำแนะนำ ในการใช้ยาที่เหมาะสม เนื่องจากยาแก้ปวดไมเกรนในปัจจุบันมีทั้งยาประเภทป้องกัน ซึ่งจะใช้กับผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนกำเริบบ่อยๆ และยาประเภทแก้ปวดไมเกรนซึ่งจะใช้เมื่อมีอาการปวดเท่านั้น
เครดิต ภญ.อินทิรา วงศ์อัญมณีกุล จากมูลนิธิคุณแม่คุณภาพ
——————————————
แตงโม อาหารช่วยในการคลายร้อน
——————————————
Thara Thai massage กายบริหารแก้อาการตามัว ปวดศีรษะไมเกรน
ลิ้งค์ https://www.youtube.com/watch?v=-ndCSJkW5dU
ไมเกรน..กับอากาศร้อนๆ
เนื่องด้วยจขบ.มีอาการปวดหัวไมเกรนติดตัวมาหลายปี ประมาณ5-6ปีได้ ซึ่งเวลาออกอาการเนี่ยจะทรมานมาก สำหรับเต้ยตัวกระตุ้นอาการไม่ใช่ความเครียดแต่อย่างใด
แต่เป็นสภาพอากาศและการนอนไม่พอมากกว่า ยิ่งช่วงหน้าฝน อากาศจะชื้นมาก ถ้าวันไหนบรรยากาศมัวซัว อึมครึมๆ ก็จะปวดหัวไปทั้งวัน จึงไม่แปลกที่เพื่อนๆจะเห็นว่าคาบเรียนตอนเช้าเต้ยจะนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ
ยิ่งถ้าคืนไหนนอนไม่พอด้วยแล้ว อาการจะยิ่งหนักเข้าไปอีก ต้องกินยาทันทีและหันไปเล่นหนุกหนานๆกะเพื่อนๆให้ลืมๆความปวดนั้นไป
อาการของเต้ยจะเป็นปวดหัว ปวดกระบอกตา ตาพร่า จะจับโฟกัสอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นหนักจะเวียนหัวและคลื่นไส้ด้วย
วันนี้ก็เลยมีข้อมูลเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับอาการไมเกรนมาฝากกัน ยิ่งช่วงนี้หน้าร้อน อาการจะกำเริบง่ายเพราะอากาศที่ร้อนจัด เราก็ควรจะหาวิธีป้องกันเอาไว้ค่ะ
ไมเกรน เป็นอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง มักปวดบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง
คนที่เป็นไมเกรนมักมีอาการเตือนล่วงหน้า เช่น เหนื่อย อ่อนเพลีย หาวบ่อย ตาพร่ามัว แสบตา เห็นภาพซ้อนหรือเห็นแสงจ้าเป็นจุด หรือเส้นซิกแซกในตา
ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอาจเป็นอยู่ประมาณ 10-30 นาที ก่อนจะปวดศีรษะหรือมีอาการวิงเวียน คลื่นไส้และอาเจียนตามมา ไมเกรนมักเป็นๆ หายๆ
ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชายถึง 3 เท่า สาเหตุของการเกิดมายเกรนยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่สังเกตได้ว่าสามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ และเกิดจากระบบการทำงานของหลอดเลือดในสมองผิดปกติ
ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นอาการไมเกรนให้กำเริบหรือเป็นถี่ขึ้นคือ ความเครียด สภาวะฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง
เช่น ช่วงมีประจำเดือน การรับประทานยาคุมกำเนิด
การรับประทานอาหาร เช่น ช็อกโกแลต ซึ่งมีสารประกอบทางไนโตรเจน ที่มีผลต่อการขยายตัวของหลอดเลือด ทำให้อาการปวดหัวทวีความรุนแรง
หรือแม้แต่อาหารที่มีผงชูรส ไส้กรอก ของดองและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น สถานที่ที่เสียงดัง มีแสงสะท้อนจ้า
และสุดท้ายการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและสภาพอากาศ อย่างเช่นหน้าร้อนเดือนเมษายนบ้านเรา ซึ่งมีแนวโน้มว่าปีนี้จะร้อนมาก
ผู้ที่เป็นไมเกรนเป็นประจำอาจหลีกเลี่ยงสภาวะกระตุ้นการกำเริบของโรค หรือป้องกันตนเองจากไมเกรนด้วยวิธีดังนี้
หลีกเลี่ยงสถานที่ที่ร้อนและแออัด โดยเฉพาะงานนิทรรศการต่างๆ ที่ผู้คนหนาแน่น อากาศหายใจไม่เพียงพอ ทำให้วิงเวียนศีรษะได้ง่าย
หรือหลังจากการเผชิญกับอากาศร้อนภายนอก และเดินเข้าภายในอาคารที่อากาศเย็นทันที อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวแปลบขึ้นมา
ในกรณีที่ต้องขับรถในช่วงแดดส่องจัด ควรสวมแว่นตากันแดด ป้องกันแสงสะท้อนเข้าตา และหากรู้สึกว่าไมเกรนกำลังคุกคาม รีบหาที่นั่งพักหลับตาสักครู่ ใช้ผ้าเย็นประคบหน้าผากหรือต้นคอ จะบรรเทาอาการได้
รับประทานอาหารครบทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้าซึ่งร่างกายต้องการมากที่สุด หลังจากท้องว่างเป็นระยะเวลากว่า 7-8 ชั่วโมง หากปล่อยให้ท้องว่าง น้ำตาลในเลือดจะลดต่ำลง อาจทำให้อาการไมเกรนกำเริบได้
นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ใช้เวลาหยุดสุดสัปดาห์ในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ หรือประยุกต์ท่าโยคะที่เรียกว่า ท่าศพ เพื่อการผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างเต็มที่ เริ่มจากการปิดไฟในห้องให้มืดและเงียบสนิท นอนหงายบนฟูกหรือพื้นราบ หงายมือวางข้างลำตัว หายใจเข้าและออกลึกๆ อย่างสม่ำเสมอ หากทำได้ 10 นาที ร่างกายจะรู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น
ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ ช่วยให้อาการปวดไมเกรนดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ช่วยบรรเทาความเครียดและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ทั้งนี้หากมีอาการไมเกรนอยู่ก่อนก็ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะจะยิ่งทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
สำหรับเต้ยวิธีป้องกันที่ว่ามา..ทำไม่ได้ซักอย่าง แต่เต้ยโชคดีอาการไม่ค่อยออกเมื่อเจอความร้อน มักจะเป็นความชื้นมากกว่าที่ทำให้เป็น
หมอเคยบอกว่าเมื่อเกิดอาการปวดหัวอย่างนี้ วิธีเดียวที่จะแก้ไขได้คือต้องทานยา “ทันที” ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยทรมานมากนั่นเอง ยาที่ทานก็ต้องเป็นยาสำหรับอาการไมเกรนนะคะ ต้องไปหาคุณหมอรักษาเป็นเรื่องเป็นราว ยาแก้ปวดทั่วไปอย่างพาราเซตามอลนั่นมันทานแล้วไม่หายหรอกค่ะ แค่พอกล้อมแกล้มๆแก้ขัดไปได้นิดหน่อย
หน้าร้อนอย่างนี้ทำใจเย็นๆสู้กับอากาศร้อนๆกันดีกว่านะคะ ช่วงนี้ก็สงกรานต์แล้ว ขอให้ทุกคนเที่ยวเล่นกันให้หนุกหนานๆ ใครเดินทางไกลก็ขอให้ปลอดภัยนะคะ ดูแลตัวเองและคนข้างกายด้วยค่ะ
ข้อมูลจาก นิตยสาร Health Today
ที่มา http://www.oknation.net/blog/SurMonChemin/2008/04/11/entry-1
ปลอดภัยจาก ไมเกรน หน้าร้อน
ไมเกรน (migraine) เป็นอาการปวดศรีษะชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะอาการที่สำคัญคือ ปวดหัวตุ๊บๆ ที่บริเวณขมับข้างเดียวหรือ สองข้างก็ได้ บางคนอาจเริ่มจากการปวดแบบตื้อๆ จี๊ดๆ ก่อน แล้วค่อยรุนแรงขึ้นจนเป็นตุ๊บๆ ในที่สุด
ความรุนแรงของอาการปวดมีตั้งแต่ ปวดปานกลาง จนถึง รุนแรงมาก อาการปวดจะกำเริบหรือรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีการเคลื่อนไหว รวมถึงอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น
คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร และอาจไวต่อแสงหรือเสียง
ตามปกติ อาการปวดไมเกรนจะกำเริบขึ้นเมื่อมีปัจจัยบางอย่างมากระตุ้น โดย อากาศร้อนหรือการอยู่ท่ามกลางแสงแดดเป็นเวลานาน เป็นปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมอย่างหนึ่งที่กระตุ้นให้บางคนเป็นไมเกรนได้
เพียงแต่ว่าในหน้าร้อนปีนี้คุณอาจจะไม่มีปัญหาแบบนั้น หากปฏิบัติดังนี้
1. หลบเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแสงแดดจัดโดยเฉพาะในเวลา 9.00-16.00 น.
2. เมื่อจำเป็นต้องเดินออกไปในที่ที่มีอากาศร้อนอาจป้องกันการปวดศรีษะจากไมเกรนโดย
ดื่มน้ำเย็นหรือ อมน้ำแข็งไปด้วยขณะเดิน เพื่อช่วยคลายความร้อน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ปวดศรีษะ
3. หลีกเลี่ยงสถานที่ร้อนและแออัด โดยเฉพาะงานนิทรรศการต่างๆ ที่ผู้คนหนาแน่น มีอากาศหายใจไม่เพียงพอ เพราะจะทำให้วิงเวียนศรีษะได้ง่าย
4. ในกรณีที่ต้องขับรถในช่วงที่มีแดดจัด ควรสวมแว่นตากันแดด และหากรู้สึกว่าไมเกรนกำลังคุกคามให้รีบหาที่นั่งพักหลับตาสักครู่ ใช้ผ้าเย็นประคบหน้าผากหรือต้นคอ ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการได้
5. รับประทานอาหารครบทุกมื้อ โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้า เพราะหากปล่อยให้ท้องว่าง น้ำตาลในเลือดจะลดต่ำลง อาจทำให้อาการไมเกรนกำเริบได้
6. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ และใช้เวลาหยุดสุดสัปดาห์ในการพักผ่อนอย่างเต็มที่
7. ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เป็นประจำจะช่วยให้อาการปวดไมเกรนดีขึ้น เพราะร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ช่วยบรรเทาความเครียดและปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ แต่หากมีอาการไมเกรนอยู่ก่อน ก็ไม่ควรออกกำลังกาย เพราะจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
8. การใช้ก้อนน้ำแข็ง หรือกระเป๋าน้ำแข็งประคบที่ศรีษะ เมื่อมีอาการปวดไมเกรน จะช่วยให้เส้นเลือดหดตัวลง ซึ่งจะสามารถช่วยบรรเทาอาการลงได้ แต่บางคนการนอนหลับก็สามารถบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้เหมือนกัน
9. สำหรับบางคนเมื่อมีอาการปวดขึ้นมา อาจใช้ วิธีการนวด การกดจุด บริเวณเส้นเลือดใหญ่หลังใบหู ก็สามารถบรรเทาอาการปวดได้ โดยไม่ต้องใช้ยาแก้ปวด
หากอาการปวดไมเกรนไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นต่อไป เพื่อให้เกิดการรักษาได้ทันท่วงที
ที่มา: นิตยสาร HealthToday
ปวดหัวหน้าร้อน ไม่ใช่ไมเกรนนะคร้าบบ……
อากาศร้อน ต้องระวัง ความดันโลหิตสูงด้วยครับ !
ช่วงนี้อากาศบ้านเฮาไม่ได้ร้อน แต่เป็นโคตรร้อนเลย! จึงอาจทำให้หลายๆคนมีอาการปวดหัว ทั้งคนปกติ และคนที่ปวดหัวไมเกรนอยู่แล้ว เลยอาจทำให้คนปกติบางคนเข้าใจผิดว่าตัวเองเป็นไมเกรนรึป่าว….
อาการปวดหัวจากสาเหตุความร้อนเกินนั้น จะมีอาการปวดหัวคล้ายหัวจะระเบิด เหมือนมีอะไรดัน หรือขยายตัวอยู่ภายในหัวของเรา
เพราะว่าความร้อนทำให้เส้นเลือดขยายตัว ความดันในเส้นเลือดจึงมีเพิ่มขึ้น จึงรู้สึกคล้ายหัวเราขยายโตขึ้น เหมือนจะระเบิด มีเหงื่อออก และปากแห้ง (อาการปวดหัวนี้ไม่ใช่อาการไมเกรน) ผู้ที่เป็นความดันสูงอยู่แล้วควรระวังให้มาก!
การบำบัดเบื้องต้น
– ควรหลีกเลี่ยงความร้อน แสงแดด และที่ที่อุณหภูมิสูง อยู่ในที่อากาศถ่ายเทสะดวกและเย็นกำลังพอดี
– ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำแข็งประคบต้นคอ หน้าผากและจุดที่ปวดสักพักจนอาการปวดลดลง
– งดการทานของร้อนต่างๆ เช่น พริก พริกไทย ของทอด ของอบ กาแฟ เหล้า เบียร์ ฯลฯ
– ทานอาหารหรือผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น เช่น ฟัก แตงโม แคนตาลูป สัปปะรด น้ำมะพร้าว น้ำใบบัวบก ฯลฯ
*** ขณะปวดหัวเพราะความร้อน ผู้ที่มีความดันสูงห้ามนวดต้นคอเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เส้นเลือดในสมองแตกได้ ระวัง!!! ***
ด้วยความหวังดีจาก : คุณชายกัวซา
ที่มา https://www.facebook.com/vutlee/posts/740471059385015?fref=nf